ได้มีข่าวจาก Bloomberg เมื่อสามวันก่อน (October 26, 2015) เกี่ยวกับ Google ที่มีการนำ เครื่องจักรกลอัจฉริยะ หรือ ที่บ้านเรา เรียกกันว่า “ปัญญาประดิษฐ์” (Artificial Intelligence หรือ AI) เข้ามาใช้ในระบบการจัดอันดับเว็บของ Google โดย มันถูกเรียกว่า “RankBrain”
อ่านข่าวจาก Bloomberg ► Google Turning Its Lucrative Web Search Over to AI Machines
หลายคนอาจจะคิดในใจทันที “ว้าววว Google จะเริ่มเปลี่ยนระบบ มาใช้ AI ในการจัดอันดับเว็บแล้วหรอเนี้ย”
อย่าพึ่งเข้าใจผิดนะครับ … วันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับเจ้า RankBrain นี้กัน
“RankBrain ไม่ใช่ ระบบใหม่ที่ Google ใช้จัดอันดับ แต่มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของ Algorithm เท่านั้น”
RankBrain คืออะไร ?
RankBrain คือ เทคโนโลยีภูมิปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่ถูกพัฒนาโดย Google และถูกนำมาใช้ในการ ช่วยจัดอันดับผลการค้นหา โดยมุ่งเน้นในเรื่องของ “Search Queries” (คำค้นหา) ที่ Google ไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งเกิดขึ้นในแต่ละวัน
• RankBrain ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่ง ของ Google’s Hummingbird Algorithm
• RankBrain ถูกปล่อยออกมาใช้งานตั้งแต่ช่วง กันยายน 2015
• RankBrain มีผลกับการจัดอันดับเว็บของ Google ในทุกภาษา (All Language)
• RankBrain เป็นหนึ่งใน “Ranking Factor” ตัวใหม่ ที่ Google นำมามีส่วนสำคัญในการจัดอันดับผลการค้นหา
• โดย RankBrain นี้ถูกจัดอยู่ในส่วนของกลุ่ม Third Most Important Signal (กลุ่มปัจจัยสำคัญลำดับที่ 3)
แต่ Google ไม่ได้เปิดเผยว่า อะไรคือ กลุ่มปัจจัยลำดับที่ 1 และ 2 !!! (ไปคาดเดากันต่อเองนะจ๊ะ ชาว SEO ทั้งหลาย)
ที่มาที่ไปของ RankBrain
มีผู้คนใช้ Google ในการค้นหาข้อมูล โดยการป้อน “คำค้นหา” (Search Query) มากกว่า 3 พันล้านครั้ง ในแต่ละวัน และในจำนวนนี้ 15% ของคำค้นหา (450 ล้าน) จะเป็นคำค้นหาใหม่ๆที่ Google ไม่เคยพบมาก่อน หรือไม่มีอยู่ในฐานข้อมูล
ด้วยความสลับซับซ้อนของ Language + Word + Text ทำให้ก่อเกิดเป็น “Long-tail” queries ได้แบบมากมายไม่รู้จบ และการจะแสดงผลค้นหา ให้ตรงกับ “คำค้นหา” เหล่านี้ จึงเป็นเรื่องที่ Google ให้ความสำคัญมาโดยตลอด
ที่ผ่านมาการคัดกรอง คัดแยก จัดกลุ่ม คำค้นหา ที่แปลกใหม่เหล่านี้ แม้จะเป็นไปอย่างอัตโนมัติ แต่ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของบรรดาเหล่าทีมงาน Google เป็นหลัก (Human Work) … การพัฒนา AI ขึ้นมา เพื่อช่วยในเรื่องนี้ จึงเป็นสิ่งที่ Google พยายามจะให้มันเกิดขึ้นจริง และมันก็เกิดขึ้นแล้ว ในวันนี้ ภายใต้ชื่อ “RankBrain”
หมายความว่าเจ้า RankBrain นี้ มันเป็นคอมพิวเตอร์โปรแกมที่คิดค้นและพัฒนาตัวของมันเองได้ มันเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง … ซึ่งจุดนี้เองที่ผมว่าทำให้น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมันแตกต่างจาก Algorithm ตัวอื่นๆ ที่จะใช้ “คน” เขียนโปรแกรมป้อนข้อมูล สำหรับการจะอัพเดทอะไรในแต่ละที
แม้ปัจจุบันมันอาจจะเรียกว่า AI ได้ไม่เต็มปาก เพราะยังต้องพึ่ง Human คือเหล่า Google Engineers อยู่ก็ตาม แต่เชื่อว่า ในอนาคต มันจะถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็น AI จริงๆ … (เหมือนกับในหนังเข้าไปทุกที ^_^) ใครจะไปรู้ละ … ไม่แน่ว่าในอนาคต Algorithm ตัวอื่นๆของ Google อาจจะกลายเป็น AI ทั้งหมดก็เป็นได้!!
RankBrain กับการทำ SEO
โดยหลักการแล้ว RankBrain จะช่วย Convert เปลี่ยน “ภาษาเขียน” (ที่เป็นคำค้นหา) ให้กลายเป็น กลุ่มของตัวเลข Mathematical ที่เรียกว่า “Vectors” ที่ถูกเข้าใจโดยคอมพิวเตอร์ … เมื่อปรากฎคำค้นหาที่ไม่คุ้นเคย RankBrain จะช่วยคิดคำนวณ และคาดเดา ว่า คำค้นหานี้ เกี่ยวกับอะไร และจะช่วยทำการคัดกรอง แล้วแสดงผลการค้นหา ที่น่าจะมีความเกี่ยวข้องที่สุดต่อ คำค้นหา นั้นๆ โดยร่วมกันกับ Ranking Factor ตัวอื่นๆ
“คนทำ SEO มองว่า RankBrain เป็นส่วนหนึ่งของ Google Hummingbird”
Hummingbird ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ ปี 2013 เป็น Algorithm ที่ออกแบบมาเพื่อเน้นโฟกัสถึงความหมาย โดยจะไม่อิงเฉพาะเพียง พยางค์หรือคำ ของ Keyword ที่จะมีผลต่อการค้นหาเท่านั้น แต่จะรวมไปถึง ความหมายของคำนั้นๆ รวมไปถึง ความหมายของประโยคทั้งประโยค หรือแม้กระทั่ง ทั้งพารากราฟ ว่ามีความหมาย และความเกี่ยวข้องสอดคล้องกับ Keyword หรือไม่
จากการยกตัวอย่างของ Search Engine Land ► FAQ: All About The New Google RankBrain Algorithm
รวมถึง นานาทัศนะคติของของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลาย ► Google’s RankBrain: 9 Industry Experts Weigh In
คนทำ SEO จึงไม่ต้องไปกังวลอะไรมากมายนัก แม้จะเป็นปัจจัยตัวใหม่ที่ Google นำมาใช้ในการจัดอันดับเว็บ และ RankBrain มีผลกับทุกภาษาทั่วโลก ก็ตามที … แต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งโดยหลักการแล้ว RankBrain จะเน้น โฟกัสไปที่ คำค้นหาที่แปลก ยาวๆ หรือ เป็นคำค้นหาในลักษณะเชิงคำถาม เสียมากกว่า คำค้นหาทั่วๆไป
บทสรุป
ในปี 2013 Hummingbird ถือเป็นการยกระดับของ Google ในการแสดงผลของการค้นหาที่ดียิ่งขึ้น มาวันนี้เราอาจจะกล่าวได้ว่า “Rankbrain” ถือเป็นอีกก้าวที่สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งของ Google ในการพยายามที่จะทำความเข้าใจกับ “Queries” และ “User Intent” ซึ่งเป็นเรื่องที่ Google พัฒนามาตลอด เพราะต้องการรู้ว่า ผู้ค้นหา ต้องการค้นหาอะไร จาก คำค้นหาที่พวกเขาพิมพ์ เพื่อที่จะได้ทำการแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุดออกมา
JoJho
คนทำเว็บนอกคอก